หลายวันจะเห็นการแชร์เตือนภัยเกี่ยวกับยาลดความอ้วน
ใครยังไม่ได้อ่าน ก็อ่านในนี้แล้วกัน ไว้เตือนคนใกล้ตัว
มีกลุ่มแม่ค้าหัวใส หน้าเงิน เห็นชีวิตคนอื่นเป็นแค่ที่ทำเงิน
นำยาระบาย (ยาใบแก้ว) มาทำเป็นยาลดความอ้วน โดยระบุเป็นยาลดไขมัน
บรรจุหีบห่อใหม่ แล้วก็ขายในราคาที่แพงมาก เป็นสิบเท่า
โดยปกติยาระบายใบแก้ว 70 เม็ด จะขายอยู่ที่กระปุกละ 25 บาท
ถ้าเอาไปทำยาลดความอ้วน 70 เม็ด ขายอยู่ 200 กว่าบาท
จริงๆแล้วยาใบแก้ว เป็นยาระบาย แก้ท้องผูก
ในตัวยา ทั้งหมด 945 กรัม มีตัวยาสำคัญ คือ
ใบส้มป่อย 100 กรัม
ดอกคำฝอย 50 กรัม
ใบมะขามแขก 750 กรัม และตัวยาอื่นๆ
ปกติ ยาสมุนไพรที่มีฤทธิ์ระบาย ตัวที่ได้ผลดีคือ ใบมะขามแขก
หรือที่ฝรั่งเรียกว่า Senna Alexandria
สารที่ออกฤทธิ์เป็นสารในกลุ่ม Glycoside ชื่อ Sennoside
มีฤทธิ์ในการไประคายเคืองที่เซลล์เยื่อบุลำไส้ใหญ่
เกิดการกระตุ้นระบบประสาทของลำไส้ ทำให้ลำไส้รู้สึกว่าต้องขยับตัว
และหลั่งน้ำออกมามากขึ้น ขี้ก็เลยไหล
ลดน้ำหนักได้ไหม เพจ สาระสุขภาพยาน่ารู้โดยเภสัชกรอุทัย บอกว่า
ลดได้ เพราะเป็นยาระบาย
แต่ลดแบบนี้อันตราย เพราะสูญเสียน้ำ ซ้ำร้ายกินเยอะ ผลข้างเคียงตามมาเยอะมาก
ข้อเสียของมันก็คือ
1. เมื่อใช้ไปนานๆ ลำไส้จะมองว่ามันคือสารที่เข้ามาประจำ
ก็เลยจะเริ่มทนทานกับยามากขึ้น ต้องใช้ยาในปริมาณที่มากขึ้น
2. การใช้ใบแห้งที่ไม่ได้ผ่านกรรมวิธีสกัด Sennoside ออกมาเป็น A และ B
(พูดง่ายๆ การใช้ใบตากแห้งเพียวๆ) จะมีสารบางตัวที่ทำให้เกิดอาการปวดท้องบิด
เหมือนมีใครเอาอะไรมาบิดไส้ ทำให้บางบริษัทผลิตยาที่สกัดเอาสารที่ทำให้ปวดท้องทิ้งไป
ดังนั้น ยาระบายมะขามแขกเหมือนกัน บางยี่ห้อกินแล้วปวดท้อง บางยี่ห้อกินแล้วไม่ปวดท้อง
3. เมื่อใช้ยาไปนานๆ แล้วจู่ๆหยุดยา ลำไส้ที่เคยถูกกระตุ้นบ่อยๆ จู่ๆ หยุดกระตุ้น ก็จะเกิดอาการท้องผูกเรื้อรังได้
4. ยาทำให้เกิดการหลั่งน้ำในลำไส้ใหญ่ หากใช้ปริมาณมากๆ จะเกิดการขาดน้ำได้
น้ำหนักลดลงหน่อยนึงแต่ขี้แตกเป็นน้ำพุเลย
ยานี้แม้จะเป็นสมุนไพร แต่ก็มีผลข้างเคียง
ซึ่งที่สำคัญคือ ทำให้เกิดอาการท้องผูกเรื้อรังได้เมื่อหยุดใช้
เมื่อใช้ไปนานๆจะก่อให้เกิดการระคายเคืองเยื่อบุลำไส้เรื้อรัง เรียกว่า melanosis coli
ดังนั้น ปกติจะไม่แนะนำให้ใช้ในเวลานานๆ ต่อเนื่องกัน
เนื่องจากมันมีฤทธิ์แค่เพิ่มการเคลื่อนตัวลำไส้ ไม่ได้ช่วยขับสารพิษ
ไม่ได้จับสารพิษ ไม่ได้ดีท็อกซ์ ไม่ได้ลดการดูดซึมแป้งหรือไขมัน
จึงไม่แนะนำให้ใช้ในการลดน้ำหนัก เพราะมันลดน้ำหนักด้วยกลไกขับขี้ และขับน้ำ ..ก็แค่นั้น
ไขมันไม่ได้หายไป พอกินน้ำ กินข้าวเข้าไป ก็อ้วนเหมือนเดิมแหละ
ออกกำลังกายดีที่สุด ถึงจะช้า แต่ดีต่อทุกๆ ส่วนในร่างกาย แถมยังทำให้เฟิร์มขึ้นด้วย
ขอบคุณที่มา : เพจ Drama-addict, เพจสาระสุขภาพยาน่ารู้โดยเภสัชกรอุทัย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น